![]() |
รูป 1 ปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ |
ปรากฏการณ์ต่างๆ
ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น
กลางวันกลางคืน รุ้ง ฟ้าแลบ
ฟ้าร้อง ดวงจันทร์ทรงกลด
เป็นต้น
มักเป็นที่สนใจแก่ผู้ที่พบเห็น
มนุษย์ในสมัยโบราณพยายามอธิบายการเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติดังกล่าว
โดยเชื่อว่า เกิดจาการกระทำของเทพเจ้า
หรือภูตผีปีศาส
ตามที่เราทราบได้จากนิยายปรัมปราของแต่ละชาติ จากความสงสัย
อยากที่จะได้เข้าใจในสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น
ทำให้มนุษย์มีพัฒนาการทางสติปัญญามากกว่าสัตว์โลกอื่นๆ อย่างไรก็ดีการอธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาติของมนุษย์ในนระยะเริ่มต้นนี้ยังไม่มีความเป็นเหตุเป็นผล
ในยุคต่อมาเริ่มมีการสังเกตและบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องการศึกษาเพื่ออธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาติของมนุษย์
เช่น ชาวอียิปต์โบราณสังเกตและบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลต่างๆเป็นเวลานานจนสามารถทำนายเวลาของการเปลี่ยนฤดูได้ล่วงหน้า
และใช้ความรู้นี้เป็นประโยชน์ในการเตรียมการเพาะปลูก นอกจากนี้มนุษย์ยังพบว่า
การเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนตำแหน่งของกลุ่มดาวฤกษ์บนท้องฟ้าเทียบกับตำแหน่งของดวงอาทิตย์อีกด้วย
![]() |
รูป 2 นักดาราศาสตร์สมัยโบราณกับการสังเกต และบันทึกข้อมูล |
จากการสังเกตและบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์ และกลุ่มดาวฤกษ์ต่างๆ มาตั้งแต่สมัยโบราณ
ทำไห้โคเพอร์นิคัสซึ่งเป็นนักดาราศาสตร์ในยุคกลางสามารถบรรยายการเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์ต่างๆ
รอบดวงอาทิตย์
ต่อมาเคปเลอร์ได้ตั้งกฎเพื่อใช้ในการอธิบายการเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์นั้น
โดยอาศัยข้อมูลที่ได้จากการสังเกตและการบันทึกของนักดาราศาสตร์คนอื่นๆ
การพัฒนาความรู้ของมนุษย์นั้นเกิดขึ้นจากกการสังเกต การบันทึกข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้
เพื่อสรุปหาความรู้และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ความรู้ที่ว่า “
โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ครบหนึ่งรอบใช้เวลา 365.24 วัน ” กับความรู้ที่ว่า “
ดวงจันทร์โคจรรอบโลกใช้เวลา 27.32 วัน ” เป็นต้น
ซึ่งความรู้เหล่านี้ไม่ได้เกิดจากการสังเกตและบันทึกข้อมูลของคนเพียงคนเดียว แต่เป็นการสรุปข้อมูลที่สะสมไว้เป็นจำนวนมากโดยผู้สังเกตรุ่นก่อนๆ
นับตั้งแต่สมัยโบราณเป็นต้นมา
เมื่อนักดาราศาสตร์สามารถบรรยายการเคลื่อนที่ของโลกและดาวเคราะห์ต่างๆ
ได้แล้ว
มนุษย์ก็พยายามหาคำอธิบายต่อไปอีกว่า
เพราะเหตุใดดาวเคราะห์จึงโคจรเช่นนั้น
ซึ่งนักเรียนจะตอบคำถามนี้ได้หลังจากได้ศึกษาต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น